ทำความรู้จัก \'ถังดักไขมัน\' ตัวช่วยลดปัญหาท่อตัน

ประเภทของถังดักไขมัน

1. แบบตั้งพื้น (บนดิน) หรือบางคนเรียกถังดักไขมันประเภทนี้ว่า ถังดักไขมันใต้ซิงค์ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น ห้องพัก คอนโด ทาวน์โฮม ร้านอาหารขนาดเล็ก มีขนาดตั้งแต่ 15-120 ลิตร ซึ่งส่วนใหญ่จะติดตั้งและจัดวางบริเวณใต้ซิงค์ล้างในครัว หรือต่อท่อออกมาติดตั้งข้างนอก
2. แบบฝังดิน (ใต้ดิน) หรือบางคนเรียกว่า ถังดักไขมันใต้ดิน เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่เพียงพอในการฝัง เช่น บ้านหลังใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม โรงอาหาร ซึ่งขั้นตอนติดตั้งจะค่อนข้างยุ่งยาก แต่จะหมดปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวน และดูเรียบร้อยกว่า มีทั้งขนาดเล็กตั้งแต่ 30-120 ลิตร  และขนาดใหญ่ตั้งแต่ 600-6,000 ลิตร 

ส่วนประกอบของถังดักไขมัน

• ตะแกรงดักเศษอาหาร เป็นตัวกรองขั้นแรกในการดักจับเศษอาหารจากท่อน้ำเข้า หน้าตาของมันจะเป็นตะแกรงมีรูเล็ก ๆ ทั่วทั้งแผ่น ช่วยแยกเศษวัสดุต่าง ๆ ไว้พร้อมกับระบายน้ำลงสู่ถังดักจับไขมัน
• ช่องแยกไขมัน เมื่อน้ำจากท่อน้ำทิ้งภายในบ้านไหลมารวมกันที่ถังดักไขมัน ในส่วนนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่า น้ำกับไขมันจะแยกส่วนกันชัดเจน โดยไขมันจะลอยตัวเหนือน้ำ ส่วนน้ำจะแยกตัวอยู่ด้านล่าง
• ท่อระบายไขมัน จะติดตั้งไว้ให้มีตำแหน่งสูงกว่าระดับท่อน้ำทิ้ง เพื่อให้ไขมันลอยตัวออกมาตามท่อระบายไขมันได้ง่าย
• ท่อระบายน้ำทิ้ง เป็นท่อสำหรับระบายน้ำที่แยกไขมันออกจากน้ำมาแล้ว เพื่อส่งไปยังท่อระบายน้ำทิ้งสาธารณะนอกตัวบ้าน

ขั้นตอนดักจับไขมัน 

1. น้ำจะไหลผ่านตะแกรงดักเศษอาหาร โดยไหลเข้าช่องที่มีเพียงน้ำกับไขมันลอยตัว
2. น้ำทิ้งจากอ่างล้างจานจะดันน้ำในถังไปที่ท่อรับน้ำทิ้ง
3. น้ำไหลต่อไปยังทางน้ำออกสู่ท่อระบายน้ำทิ้งสาธารณะ โดยไม่มีไขมันหลุดออกไป

การติดตั้งถังดักไขมันบนดิน 

1. ติดตั้งใต้อ่างล้างจาน โดยต่อท่อน้ำทิ้งจากอ่างล้างจานเข้าถังดักไขมัน
2. เดินท่อน้ำทิ้งออกจากถังดักไขมันไปยังถังบำบัดน้ำเสีย หรือท่อน้ำทิ้งสาธารณะ
3. พื้นที่ติดตั้งต้องได้ระดับ เรียบสม่ำเสมอ และง่ายต่อการเปิดฝาถังทำความสะอาด

การบำรุงรักษาถังดักไขมัน

• ควรทำความสะอาดตะแกรงทุกวัน เพื่อป้องกันเศษอาหารเน่าเสีย
• ควรระบายไขมันออกทางท่อ หรือตักออกทุก 7 วัน
• ถอดวาล์วระบายตะกอนที่ก้นถัง และใช้น้ำฉีดทำความสะอาดทุก 6 เดือน

ที่มา - https://www.thaiwatsadu.com/th/articles/GreaseTrap