“รมต.วรวัจน์” ประชุม กลุ่ม จังหวัดภาคเหนือ จัดสรรงบประมาณป้องกันน้ำท่วม 10,000 ล้าน“นครแม่สอด” ขอ 200 ล้านบาท ป้องกันแก้ไขทั้งระบบ รับเมืองเศรษฐกิจชายแดน

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555 นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์  นายกเทศมนตรีนครแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวภายหลังเดินทางเข้าร่วมประชุมยุทธศาสตร์การวางแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะสั้นและระยะยาว ใน 10 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ(ตาก-เชียงใหม่-เชียงราย-แพร่-น่าน-ลำปาง-อุตรดิตถ์-สุโขทัย-พิษณุโลก-พะเยาว์) ซึ่งมีการจัดประชุมที่วิทยาลัยเทคนิคแพร่ จังหวัดแพร่ โดยมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงบประมาณ เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้แทนจาก 10 จว.และผู้บริหารท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม กว่า 80 คน ว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีการเสนอแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาร้ำท่วมและอุทกภัยทั้งระบบ โดยที่ประชุมนั้น รตม.วรวัจน์ ได้มีการจัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 10,000 ล้านบาทในการแบ่งให้กับจังหวัดต่างๆที่ได้นำเสนอของบประมาณมา เพื่อนำไปดำเนินโครงการต่างๆ เช่นการขุดลอกแม่น้ำ-คลอง-สระ การสร้างแนวป้องกันตลิ่ง-การสร้างแกล้มลิง-การสร้างรางระบายน้ำ-หรือโรคงการก่อสร้างพนักคอนกรีตป้องกันลำห้วยที่ไหลผ่านในชุมชนและเขตเทศบาล  โดยที่ประชุมได้จัดสรรงบประมาณไปยังจังหวัดต่างๆตามโครงการที่นำเสนอขอ และเป็นไปตามลำดับความสำคัญ รวมทั้งความจำเป็นเร่งด่วน  โดยมีทั้งการแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาว
“ในส่วนของเทศบาลนครแม่สอด นั้น ได้เสนอของบประมาณในการก่อสร้างโครงการผนังคอนกรีตป้องกันน้ำท่วม ระยะที่ 3 งบประมาณ กว่า 200 ล้านบาท เพื่อป้องกันน้ำท่วมนครแม่สอด แบบถาวร ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว  ซึ่ง รมต.วรวัจน์ ได้รับที่จะดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้ตามที่ขอ เนื่องจากเทศบาลนครแม่สอด กำลังมีการพัฒนาไปสู่การเป้นเขตเศรษฐกิจพิเศษและท้องถิ่นพิเศษนครแม่สอด ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ-การค้าชายแดนที่สำคัญ ในการเตรียมเป็นศูนย์กลางอาเซียน ด้านการค้า-การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ จึงต้องมีการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม”นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม สืบเนื่องมาจากปีที่ผ่านมาได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด-เขตปริมณฑลและกรุงเทพ ซึ่งจังหวัดในภาคเหนือเป็นจังหวัดต้นน้ำ ที่มีส่วนในการป้องกันและแก้ไขและจัดระบบการระบายน้ำได้ จึงต้องมีการวางแผนบูรณาการร่วมในกลุ่ม 10 จว.ภาคเหนือที่มีแหล่งต้นน้ำ