ภาชนะทางเลือกใหม่ กิน-ดื่มได้อย่างปลอดภัยจากวัสดุธรรมชาติ

          ภาชนะ ในปัจจุบันที่เราเอาไว้ใส่อาหารนั้นส่วนใหญ่จะทำมาจากพลาสติกหรือกล่องโฟมใช่ไหมครับ หลังจากการใช้งานเสร็จแล้วจากภาชนะก็กลายเป็นขยะและจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก เนื่องจากย่อยสลายได้ช้า บวกกับการทิ้งอย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จึงตามมาด้วยปัญหามากมายทั้งแต่คนและสัตว์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากกระบวนการกำจัดผลิตภัณฑ์จำพวกพลาสติกและโฟม ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนตามมาอีกด้วย

          จะดีแค่ไหนถ้า ภาชนะ ที่คุณนำมาใส่อาหารนั้นไม่ทำลายโลกและไม่เพิ่มขยะ วันนี้ my home มี ภาชนะทางเลือกใหม่ที่สร้างขึ้นจากธรรมชาติ  ย่อยสลายเอง สามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก และที่สำคัญเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาแนะนำสำหรับทุกคนครับ

จานกาบหมาก Veerasa

          กาบหมาก จากสิ่งที่ดูไร้ค่าในสวนหมากของชาวอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ที่แต่เดิมก็ปลูกต้นหมากกันอย่างแพร่หลาย ส่วนของลูกหมากก็เก็บไปขายสร้างรายได้ แต่สิ่งที่หลงเหลือไว้ก็คือกาบหมากที่ร่วงหลุดอยู่  แบรนด์”วีรษา”(Veerasa) เล็งเห็นประโยชน์จึงนำกาบหมากมาแปรรูปให้เป็นจานใส่อาหาร โดยนำกาบหมากมาล้างทำความสะอาด นำไปพึ่งแดดให้แห้งสนิท จากนั้นนำมาตัดด้วยเครื่อง แล้วบรรจุขาย ข้อดีของจาน-ชามกาบหมากคือมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ สามารถนำเข้าไมโครเวฟและเตาอบได้อย่างปลอดภัย ใส่อาหารได้ทุกประเภท

ถ้วยจากใบทองกวาว

          ใบทองกวาวจัดว่าเป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ ไม่ว่าจะใช้เป็นยาที่มีสรรพคุณหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากใบที่มีลักษณะใบที่ค่อนข้างใหญ่โดยภาชนะที่ทำจากใบทองกวาวนั้นสามารถใส่อาหารได้ทั้งของคาวและของหวาน รวมไปถึงเมนูของร้อน เมนูทอด จนไปถึงแกงแบบต่าง ๆ สำหรับใครที่แอบกังวลว่า ภาชนะจากใบทองกวาวจะทนทานไหม จะมีแอบรั่วแอบซึมน้ำซุบออกมาบ้างหรือเปล่า  ต้องบอกเลยว่าถ้วยจากใบทองกวาวสามารถใส่อาหารทิ้งไว้เป็นเวลา 2-3 วันได้ไม่รั่วซึมแถมยังคงรูปทรงเดิม ไม่ย้วย ไม่แหลกสลายไปในระหว่างทางอย่างแน่นอน

ถ้วยจากใบเล็บครุฑ

          ปัจจุบันเทรนด์การใช้ของจากธรรมชาติเรียกได้ว่ากำลังมาแรงกันเลยทีเดียว  เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ถูกตาถูกใจผู้บริโภคอย่างเราทั้งนั้น  คงเป็นเพราะเราใส่ใจและให้ความสนใจเกี่ยวกับการรักษ์โลกมากยิ่งขึ้นจึงทำให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นได้ทุกวี่ทุกวัน  อย่างเช่นการนำใบเล็บบครุฑ มาเป็นภาชนะไว้รองอาหารไม่ว่าจะเป็นของทอด ของนึ่ง  และของทานเล่นก็ใส่ได้  ซึ่งดูแล้วก็ไม่ได้ยุ่งยาก กินเสร็จก็สามารถทิ้งได้เลย ใบเล็บครุฑก็จะย่อยสลายเองไปตามธรรมชาติ  แต่สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่ความครีเอทและการใส่ใจสิ่งแวดล้อม  ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีมากสำหรับยุคสมัยนี้เพราะช่วยในการลดใช้ถุงพลาสติกและโฟมได้ดี   สำหรับร้านอาหารใดที่สนใจก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้หรืออาจจะเป็นใบอื่นที่สามารถนำมารองอาหารได้  ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยก็สามารถทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นแล้วแหละครับ

ผลิตภัณฑ์จากใบกล้วย

          วัสดุจากธรรมชาติเป็นสิ่งหนึ่งที่มีประโยชน์สารพัดอย่าง ทาง C-sense ได้นำหยวกหรือใบกล้วยมาทำเป็นภาชนะต่าง ๆมากมาย โดยใช้เทคนิคการขึ้นรูปคล้าย ๆ กับเปเปอร์มาเช่ นั้นก็คือไส้ตรงกลางเป็นกระดาษ อัดหยวกกล้วยเป็นผิวหน้าด้วยมือทุกใบ และเคลือบทับด้วยน้ำมันแบบฟู้ดเกรด  สามารถใส่อาหารรับประทานได้คล้ายกับภาชนะทั่วไป แต่จะต้องหลีกเลี่ยงพวกแกง หรือเมนูที่มีน้ำและไม่ควรแช่น้ำไว้นาน ส่วนเรื่องการล้างทำความสะอาดนั้นก็เหมือนภาชนะที่ทำจากไม้ทั่วไปครับ ล้างด้วยน้ำยาล้างจานผึ่งลมให้แห้ง แค่นี้อายุของภาชนะจากหยวกกล้วยก็ยืดยาวได้หลายปีแล้วครับ

แก้วกินได้จาก Loliware 

          Lolistraw  แบรนด์อีโคที่ผลิตแก้วและหลอดที่สามารถกินได้แบบหมดจด  โดยผลิตมาจากสาหร่ายและสารอินทรีย์ที่ช่วยให้ความหวาน  ส่วนสีและรสชาติก็มาจากผักผลไม้จริง ๆ จะไว้ใส่น้ำดื่มและน้ำผลไม้ปั่นเย็น ๆ ก็สดชื่นน่าดูหรือถ้าใครชอบไอศกรีมก็ใส่ได้เหมือนกัน  ส่วนสีก็จะมีให้เลือกหลายสีหลายรส เช่น เลมอน วนิลา เชอร์รี่ หรือชาเขียว ที่สามารถกัดกินได้ทั้งใบหรือถ้าอยากจะทิ้งก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะแก้วเหล่านี้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 60 วันเท่านั้นครับ รู้อย่างนี้แล้วคงต้องมีไว้กัดเล่นเอ้ยใส่น้ำดื่มกันแหละแล้วครับ

Plantable Coffee Cup แก้วกาแฟปลูกต้นไม้

          ซื้อกาแฟมาดื่มแล้วเผลอทิ้งไว้ในสวนหลังบ้าน  อีกไม่นานอาจกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่บ้านเราก็ได้ใครจะรู้   ใช่แล้วครับแก้วกาแฟปลูกต้นไม้ ของบริษัท Reduce. Reuse. Grow  ได้คิดค้นขึ้นมาโดยมีความพิเศษตรงที่ไม่เพียงย่อยสลายได้  แต่บนผิวถ้วยกาแฟยังฝังเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการเลือกสรรให้เหมาะแก่การเพาะปลูกในแต่ละท้องถิ่นไว้อีกด้วย   เพื่อที่จะสามารถนำไปปลูกให้เจริญงอกงามเป็นต้นไม้ใหญ่ได้  และเมื่อลูกค้าซื้อกาแฟจากร้านที่ใช้ถ้วยกาแฟนี้ไป หลังจากดื่มแล้วก็สามารถนำไปปลูกด้วยวิธีการง่ายๆตามคำแนะนำต่าง ๆ  เกี่ยวกับการปลูกซึ่งพิมพ์บอกไว้บนถ้วย  แต่ถ้าหากลูกค้าไม่มีเวลานำไปปลูกหรือต้องการทิ้งเลยก็ได้ เพราะถ้วยกาแฟนี้สามารถนำมาเป็นปุ๋ยหมักได้ด้วย  โดยตัวถ้วยเองจะย่อยสลายภายใน 180 วัน จากนั้นเมล็ดที่ฝังอยู่ในถ้วยจะกลายเป็นสารอาหารสำหรับพืชอื่น ๆ อีกต่อไป เชื่อว่าต้องถูกใจคอกาแฟสายรักษ์โลกแน่นอนครับ

ภาชนะจากพลาสติกผสมฟางข้าวสาลี

          ขอบอกเลยครับว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน กับร้าน Monkey Brothers Factory เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากฟางข้าวผสมกับพลาสติก  ไอเดียดีแถมยังรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมอีกด้วย   ส่วนผลิตภัณฑ์ของทางร้านก็มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ สไตล์น่ารักที่จะเป็นของฝากหรือซื้อใช้เองก็ถูกใจแน่นอน  กล่องข้าวที่ดูสวยงามมาพร้อมช้อน ส้อม  ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชั้น สามารถเข้าไมโครเวฟได้และที่สำคัญกล่องนี้ย่อยสลายได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ปีแต่ต้องฝังดินนะครับ  และชิ้นต่อไปที่อยากแนะนำเลยคือ ที่คั้นน้ำส้มสีสันสดใสเหมาะกับแม่บ้านยุคใหม่มาก ๆ จะพกไปคั้นน้ำส้มข้างนอก หรือจะเป็นพร็อพถ่ายรูปเก๋ ๆ ก็ได้ และทางร้านยังมีสินค้าน่ารัก ๆ อีกเพียบให้คุณได้ทดลองใช้  ซึ่งแต่ละชิ้นหน้าใช้มากแถมยังปลอดภัยจากสารเคมี และดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์จากชานอ้อย

หรือที่เรียกอีกอย่างว่าจานกระดาษชานอ้อยนั้นแหละครับ กระดาษชานอ้อยเป็นกระดาษที่ได้มาจากการเอาเยื่อของชานอ้อยที่เหลือจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาล นำไปผสมกับเยื่อกระดาษผ่านกระบวนการตีให้แน่นเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม ขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆได้ ไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ถ้วย เรียกว่าสามารถใช้แทนถ้วยโฟมได้เลยครับ นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพเราแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อโลกของเราอีกด้วย   เพราะเมื่อนำเปรียบเทียบกับพลาสติกและโฟมแล้วพบว่าชานอ้อยสามารถใส่น้ำและอาหารทั้งเย็นจัดจนถึงร้อนจัดได้ถึง 250 องศาเซลเซียส  อีกทั้งยังเข้าเตาอบและเตาไมโครเวฟได้โดยไม่มีสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย  และที่สำคัญจานชามจากชานอ้อยสามารถย่อยสลายเองได้ในเวลา 45 วันเท่านั้นเอง แต่ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่นิยมเปลี่ยนมาใช้กันเท่าไหร่ เพราะเรื่องราคาที่แพงกว่าโฟมถึง 2 เท่า แต่เชื่อเถอะครับว่าถ้าเราเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่ดีต่อโลกแล้ว  เมื่อเทียบราคากับสิ่งที่เราทำให้โลกมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกนะครับ

 Story : my home

ขอขอบคุณที่มา : https://www.baanlaesuan.com/124936/diy/easy-tips/eco-friendly-utensils