เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 ดร.เทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด จังหวัดตาก เดินทางมาเป็นประธานโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน กิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าว บนแปลงนาสาธิต บริเวณถนนสายเอเชียนครแม่สอด-ริมเมย ชายแดนไทย-พม่า ติดห้างโลตัส สาขานครแม่สอด ซึ่งแปลงนาสาธิตแห่งนี้เป็นของเอกชนรายหนึ่งเนื้อที่ 3 ไร่ มูลค่าที่แจ้งซื้อ-ขาย กว่า 30 ล้านบาท เฉลี่ยไร่ละ 30 ล้านบาท ซึ่งเอกชนรายดังกล่าวได้ให้เทศบาลนครแม่สอดยืมใช้เพื่อจัดกิจกรรมการดำนา-ปลูกข้าวและเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดโครงการลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมประเพณี เพื่อให้นักเรียน-เยาวชน รุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงวิธีการและขั้นตอนการทำนา ตั้งแต่การไถนา ก่อนลงเมล็ดพันธุ์ ในช่วงฤดูฝน-หว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว-การดูและจนถึงการลงแขกเก็บเกี่ยว ในช่วงต้นฤดูหนาว โดยใช้เวลา ประมาณ 4 -5 เดือน เป็นโครงการที่เทศบาลนครแม่สอด ได้ให้โรงเรียนเทศบาลวัดดอนแก้ว ได้ดำเนินโครงการเพื่อการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ `กิจกรรมครั้งนี้มีผู้บริหารเทศบาลนครแม่สอด-คณะครูอาจารย์-นักเรียน-หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทหาร-ตำรวจ และประธานชุมชนต่างๆในเขตเทศบาล ตัวแทนคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนครแม่สอด เข้าร่วมโครงการกว่า 300 คนนายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า ถึงแม้นครแม่สอด จะเป็นศูนย์กลางประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน AEC บนระเบียงเศรษฐกิจอิสเวตส์อิโคโนมิคคอริดอร์ `EWEC มีมูลค่าการค้าชายแดนไทย-พม่า ปีละหลายหมื่นล้านบาท เป็นเมืองเศรษฐกิจการค้าชายแดนอันดับต้นๆของเมืองไทย มีความเจริญทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเป็นเมืองที่หลากหลายวัฒนธรรมจากหลายชนเผ่า นครแม่สอด จึงต้องมีการอนุรักษ์และรักษาความเป็นไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่การพัฒนาความเจริญทางเศรษฐกิจ “นครแม่สอด” เป็นเมืองที่มีความมหัศจรรย์ มีความเจริญบนพื้นฐานความเป็นไทย จะเห็นได้ว่า 2 ข้างถนนเส้นทางนครแม่สอด-ริมแม่น้ำเมย มีตึกอาคารพาณิชย์และห้างดัง อยู่ฝั่งถนนหนึ่ง และอีกฝั่งถนนคือแปลงนาสาธิตเพื่อการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ หลักการทำนาของชาวนาไทยแต่โบราณ ซึ่งแปลงนาสาธิตนี้มีมูลค่าแพงที่สุดในเมืองไทย 3 ไร่ มีมูลค่าการซื้อ-ขาย เกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งบอกได้ว่าที่นี่คือ “นครแม่สอด”
Highlight Maesot Related article