การสร้างบ้าน อาคาร รวมถึงที่อยู่อาศัยนั้น นอกจากการวางแผนติดตั้งระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า และระบบบำบัดน้ำเสียภายในอาคารแล้ว ถังดักไขมัน เป็นอีกหนึ่งระบบการจัดการของเสียภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร และน้ำเสีย เพื่อช่วยในการดักจับไขมัน ไม่ให้ไขมันจากเศษอาหารเหล่านั้นเกิดการอุดตัน ซึ่งการติดถังนั้นไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดไขมันเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากขึ้น สามารถปล่อยน้ำทิ้งลงแหล่งธรรมชาติได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับใครที่ยังมีข้อสงสัยบทความนี้ Golbal House จะชวนไปรู้จักกับถังดักไขมันให้มากขึ้น ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง พร้อมแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับบ้านของเรา

ถังดักไขมันคืออะไร

ถังดักไขมัน (Grease Trap) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการดักจับไขมัน โดยจะทำหน้าที่ในการช่วยแยกส่วนของไขมันออกจากน้ำ โดยจะดักจับจากท่อน้ำทิ้งต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งช่วยให้น้ำทิ้งนั้นมีความสะอาดมากขึ้น จนสามารถปล่อยทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

ถังดักไขมันมีกี่แบบ

ถังดักไขมัน หรือบางคนอาจจะรู้จักในชื่อบ่อดักไขมัน เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยแยกไขมันออกจากน้ำ ช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากขึ้น ซึ่งมีทั้งหมด 2 ประเภท ซึ่งถังทั้งสองประเภทนั้นก็มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ถังดักไขมันบนดิน

ถังดักไขมันบนดิน เป็นถังที่สามารถติดตั้งได้ง่าย โดยจะตั้งอยู่บนพื้น แล้วทำการติดตั้งท่อระบายน้ำจากอ่างล้างจาน เข้ากับตัวถัง แล้วทำการติดตั้งท่อระบายน้ำของถังลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากขึ้นแล้ว ซึ่งถังดักไขมันบนดินนิยมติดตั้งในที่พักที่มีพื้นที่จำกัดอย่าง ห้องพัก คอนโด หรืออพาร์ตเมนต์ เพราะติดตั้งง่าย แถมยังใช้พื้นที่น้อยด้วย อีกทั้งยังมีวิธีการดูแลที่ง่าย ไม่ซับซ้อน

2. ถังดักไขมันฝังดิน

ถังดักไขมันแบบฝังดิน เป็นรูปแบบการติดตั้งที่ต้องฝังตัวถังลงใต้ดิน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่วิธีนี้ค่อนข้างยุ่งยาก โดยจะต้องมีการติดตั้งระบบน้ำทิ้ง และต่อท่อออกไปยังบริเวณนอกบ้าน ซึ่งจำเป็นจะต้องให้ช่างออกแบบ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การติดตั้งยังใช้พื้นที่เยอะ จึงนิยมติดตั้งในบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือทาวน์เฮาส์ที่มีพื้นที่นอกตัวบ้านมากกว่า

ขนาดความจุของถังดักไขมัน

ถังดักไขมันนั้นมีด้วยกันหลากหลายขนาด เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานให้เหมาะสมกันในแต่ละพื้นที่ และให้การดักไขมันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขนาดความจุนั้นมีตั้งแต่ถังดักไขมัน 15 ลิตร ไปจนถึงถังขนาดใหญ่ 140 ลิตร ซึ่งปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาเลือกนั้นจะต้องดูจากจำนวนสมาชิกในบ้านเป็นหลัก 

องค์ประกอบของถังดักไขมัน

ถังดักไขมันเป็นระบบดักจับไขมันจากท่อน้ำทิ้ง เพื่อทำการแยกไขมันออกจากน้ำ ซึ่งช่วยให้น้ำนั้นมีความสะอาดมากขึ้น ซึ่งองค์ประกอบขอบถังมีด้วยกันหลักๆ 4 อย่าง ดังนี้

1. ตะแกรงดักเศษอาหาร

ตะแกรงดักจับเศษอาหารเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยคัดแยก และกรองเศษอาหารออกมา โดยจะมีลักษณะเป็นตะแกรงซึ่งมีรูเล็กๆ ให้น้ำผ่านไปได้ แต่เศษอาหารจะค้างอยู่ด้านบน ซึ่งตะแกรงดักเศษอาหารนั้นถือเป็นขั้นตอนแรกที่ทำหน้าที่ดักจับเศษอาหาร และปล่อยน้ำลงสู่ถังดักจับไขมันต่อไป

2. ช่องแยกไขมัน

หลังจากที่มีการดักเศษอาหารออกหมดแล้ว น้ำเสียทั้งหมดก็จะไหลมารวมกันที่ช่องแยกไขมัน ซึ่งเป็นช่องที่มีการออกแบบให้มีความเหมาะสมกับทิศทางการไหลของน้ำ โดยช่องแยกไขมันจะทำการกักน้ำไว้ เพื่อรอให้น้ำและไขมันเกิดการแยกตัว เนื่องจากไขมันนั้นมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ จึงทำให้ไขมันลอยอยู่บนผิวน้ำ ช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากขึ้น 

3. ท่อระบายไขมัน

เมื่อไขมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำมีความหนาแน่นมากๆ ท่อระบายไขมันก็จะทำการระบายไขมันไปยังตระกร้าทิ้งไขมัน ซึ่งการติดตั้งท่อระบายไขมันนั้นจะต้องติดตั้งให้มีความสูงกว่าท่อระบายน้ำ เพื่อช่วยให้ระบายไขมันออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

4. ท่อระบายน้ำทิ้ง

หลังจากที่ถังดักไขมันทำการดักเศษอาหาร และจัดการแยกไขมันออกจากน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็จะเหลือน้ำที่มีความสะอาดขึ้น ไม่มีการปะปนกับไขมัน ในส่วนของท่อน้ำทิ้งนั้นก็สามารถปล่อยทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย หรือส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา

ประโยชน์ของถังดักไขมัน

การรับประทานอาหารภายในบ้านนั้น อย่างไรก็จะทำให้เกิดการปะปนของเศษอาหารตามมาอย่างแน่นอน การแยกขยะ หรือเลือกกำจัดเศษอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องติดตั้งถังดักไขมันด้วย เพื่อช่วยให้น้ำมีความสะอาดมากขึ้น อีกทั้งยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้

1. ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากท่อน้ำทิ้ง

การทิ้งเศษอาหารลงในท่อน้ำทิ้ง โดยไม่มีการแยกขยะ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่าได้ โดยเศษอาหารที่ทิ้งรวมไปกับน้ำนั้นจะเกิดการหมักหมม ซึ่งทำให้เกิดก๊าซไข่เน่า หรือก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นโชยออกมาจากท่อน้ำทิ้ง การติดตั้งถังดักไขมันจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้

2. ปรับคุณภาพน้ำเสียก่อนทิ้งลงท่อระบายน้ำ

การทิ้งน้ำเสียที่มาจากการใช้งานภายในบ้านหรืออาคารโดยไม่ผ่านการบำบัดลงแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น นอกจากจะทำให้น้ำเน่าเสีย เกิดกลิ่นเหม็นแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำ และพืชน้ำตามธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นการทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตจนเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดเชื้อโรคได้ การแยกไขมันออกจากน้ำก่อนทิ้งจึงเป็นตัวช่วยดีๆ ที่ช่วยให้น้ำมีความสะอาด ช่วยให้แหล่งน้ำธรรมชาติไม่เกิดการปนเปื้อน

3. ดักกรองเศษอาหารลดการอุดตันในท่อน้ำทิ้ง

การติดตั้งถังดักไขมันนั้นจะช่วยกรองเศษอาหาร และสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ทำหลุดลงไปในท่อระบายน้ำได้ ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดปัญหาท่อน้ำอุดตัน ซึ่งหากเกิดปัญหาท่อน้ำอุดตันบ่อยๆ จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น และทำให้ท่อน้ำทิ้งเกิดการรั่วซึมได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย

ถังดักไขมันควรมีทุกบ้านไหม

การติดตั้งถังดักไขมันนั้นจำเป็นต้องมีทุกบ้าน เพื่อช่วยให้น้ำเสียที่ปล่อยจากบ้าน หรืออาคารนั้นมีความสะอาด ไม่เกิดการปนเปื้อนจากเศษอาหาร และไขมัน ซึ่งทำให้สามารถทิ้งน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติได้ โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ หากมีการปล่อยน้ำเสียโดยไม่ผ่านการบำบัด หรือไม่ผ่านการแยกไขมัน น้ำที่ปล่อยลงไปจะทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นรบกวนด้วย ที่สำคัญการปล่อยน้ำที่ปะปนไขมันลงแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น ใช้เวลาในการย่อยสลายไขมันนานมากกว่า

วิธีเลือกซื้อถังดักไขมันให้เหมาะกับบ้านคุณ

การเลือกซื้อถังนั้นจำเป็นจะต้องคำนวณจากจำนวนสมาชิกทั้งหมดในบ้าน เพื่อที่จะได้เลือกซื้อขนาดของถังให้มีความเหมาะสมกับปริมาณน้ำเสียที่ใช้ และขนาดของถังจะช่วยให้แยกไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

• จำนวนสมาชิกในบ้าน 1-5 คน ควรเลือกใช้ถังดักไขมัน 15 ลิตร
• จำนวนสมาชิกในบ้าน 6-10 คน ควรเลือกใช้ถังดักไขมัน 30 ลิตร

วิธีการติดตั้ง

ถังดักไขมันนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 2 ประเภท คือ ถังดักไขมันบนดิน และถังดักไขมันฝังดิน ซึ่งวิธีการติดตั้งถังทั้งสองรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนี้

การติดตั้งถังดักไขมันบนดิน

• เลือกขนาดของถังให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน และจำนวนสมาชิกที่อยู่อาศัย
• เลือกตำแหน่งในการติดตั้ง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกติดใต้อ่างล้างจาน เพื่อช่วยให้ต่อระบบน้ำได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยพรางตาได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความสวยงาม ไม่รกเกะกะ
• ติดตั้งสายและท่อน้ำทิ้งจากอ่างล้างจาน เข้าสู่ถัง
• ต่อท่อระบายน้ำทิ้งจากถัง เข้าสู่ท่อระบายน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ

การติดตั้งถังดักไขมันฝังดิน

• เลือกถังให้เหมาะสมกับการใช้งาน
• ขุดหลุมเพื่อทำการฝังบ่อดักไขมัน โดยควรขุดให้มีขนาดใหญ่กว่าถังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่สำคัญควรมีการปรับพื้นดินให้มีความสมดุล หรือเทคอนกรีต เพื่อช่วยป้องกันการทรุดตัวของดิน หรือป้องกันน้ำไหลเข้า
• ติดตั้งท่อน้ำทิ้งภายในบ้านให้ไหลเข้าสู่ตัวถัง
• ติดตั้งท่อระบายน้ำจากตัวถัง เพื่อระบายน้ำที่ผ่านการแยกไขมันแล้วทิ้งลงแหล่งน้ำสาธารณะ

วิธีบำรุงรักษา

การติดตั้งถังจะต้องมีวิธีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ตัวถังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีการดูแลรักษาสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

• เมื่อไขมันเต็มตะกร้าแล้วควรตักกออกทุกๆ ครั้ง หรือตักไขมันทุกๆ 1-2 วัน เมื่อสังเกตเห็นว่าไขมันเกิดการจับตัวกันเป็นก้อน ๆ เพื่อช่วยให้ไขมันระบายได้ดีขึ้น 
• ทำความสะอาด ล้างบ่อดักไขมันเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดคราบสกปรก จนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และเป็นแหล่งเพาะเชื้อ วางไข่ของแมลงต่างๆ 
• หลีกเลี่ยงการวางของกีดขวางบนตัวถัง

แนะนำถังดักไขมันจาก GLOBAL HOUSE

การติดตั้งถังดักไขมันนั้นช่วยแยกไขมันออกจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้น้ำมีความสะอาด และสามารถปล่อยทิ้งได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันมีถังให้เลือกใช้กันหลากหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแบรนด์ที่ Global House อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จัก มีดังนี้

DOS ถังดักไขมันบนดิน ขนาด 15L

เริ่มกันด้วยแบรนด์แรกจาก DOS เป็นถังดักไขมัน 15 ลิตร ซึ่งผลิตมาจากวัสดุ PE ชนิดพิเศษที่มีความหนากว่า PE รูปแบบอื่นๆ ทั่วไป ทำให้ทนต่อการกัดกร่อน อีกทั้งยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ทำให้เลอะเทอะมือ นอกจากนี้ตัวตะแกรงกรองอาหารยังทำจาก Nylon-6 ที่มีความเหนียว ช่วยให้ตัวตะแกรงไม่บุบ หรือเกิดสนิมง่าย

VAVO ถังดักไขมันอัตโนมัติ ขนาด 20 ลิตร

VAVO เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยากจะแนะนำ ด้วยการออกแบบให้มีความกะทัดรัด จึงเหมาะกับบ้านที่พื้นที่ไม่มาก อีกทั้งยังมีการเลือกใช้วัสดุในการผลิตที่แข็งแรง ทนทาน ช่วยให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้ยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะผลิตจาก PP Polypropylene คุณภาพดี ทำให้ผิวตัวถังมีความเรียบลื่น ช่วยให้ไขมันไม่เกาะตัวถัง ที่สำคัญมีประสิทธิภาพในการแยกไขมันได้มากกว่า 95% ช่วยให้น้ำมีความสะอาด สามารถทิ้งลงแหล่งน้ำได้โดยไม่เกิดปัญหาเน่าเสีย

WAVE ถังดักไขมัน ขนาด 30L

WAVE เป็นถังดักไขมันที่มีความเหมาะสมกับร้านอาหาร หรือคาเฟ่ที่มีการทิ้งน้ำเสียในปริมาณที่มาก เพราะมีขนาดใหญ่ ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน อีกทั้งยังออกแบบให้ใช้งานได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงในการดักไขมัน ช่วยให้ได้น้ำทิ้งที่สะอาดมากขึ้น

DOS ถังดักไขมันบนดิน ขนาด 40L

ในกรณีที่เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ จำเป็นจะต้องเลือกถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา เพื่อรองรับน้ำเสียช่วยให้แยกไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งDOS เป็นถังขนาด 40 ลิตร ที่มีการผลิตจากวัสดุ PP Poly Propylene ที่มีความเรียบลื่น ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ยังออกแบบด้วยระบบท่อเข้า-ออกด้วย Spin Weld Technology ซึ่งช่วยตัดปัญหาการรั่วซึมบริเวณท่อได้เป็นอย่างดี

สรุปบทความ

การติดตั้งถังดักไขมันนั้นเป็นการกรองเศษอาหาร และแยกไขมันออกจากน้ำทิ้ง ช่วยให้น้ำนั้นมีความสะอาด ไม่เกิดการปะปนกับไขมัน สามารถปล่อยน้ำทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติได้ โดยไม่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น และไม่เกิดมลพิษทางน้ำกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเลือกถังนั้นควรประเมินจากจำนวนสมาชิกในบ้าน หากเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่มีสมาชิก 1-5 คน การใช้ถังดักไขมัน 15 ลิตรก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ยังควรมีการดูแลทำความสะอาดถังอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้มีประสิทธิภาพในการแยกไขมันได้ดี

ถังดักไขมันถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ ไม่ทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทุกบ้านควรติดตั้งเพื่อให้น้ำมีความสะอาด สำหรับครอบครัว หรือร้านอาหารที่อยากติดตั้งแต่เลือกไม่ถูกว่าควรใช้ถังขนาดเท่าไรที่ Global House มีถังดักไขมันจำหน่ายหลากหลายแบรนด์ให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ตรงตามความต้องการ ในราคาที่มีความคุ้มค่า และได้มาตรฐาน อีกทั้งยังมีพนักงานคอยให้คำแนะนำและการบริการด้วยความเชี่ยวชาญ

ที่มา - https://globalhouse.co.th/globalidea/detail/660